ค้นหาบล็อกนี้

วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2555

Review : Bowers&Wilkins MM-1 Multimedia Computer Speaker

     สวัสดีครับท่านผู้อ่านอีกครั้ง คราวนี้ก็มาในเรื่องการรีวิวอีกครั้งครับ ช่วงนี้จะออกไปทางรีวิวบ่อยหน่อยนะครับ ไม่มีเวลาทำงาน DIY เลย มีโปรเจ็คค้างอยู่คือแอมป์หลอด Class A เบอร์ 6AQ5 ไดรด้วย 12AX7 ตอนนี้ของครบละแต่ไม่มีเวลาทำ ใครมีเฟสบุ็คผมก็คงจะเห็นลายวงจรที่ผมนั่งเขียนไปแล้ว แต่ตามที่บอกครับไม่มีเวลาทำต่อเลยขอคั่นด้วยการรีวิวแทนครับไว้มีเวลาจะมาทำต่อ วันนี้..ผมจะมารีวิวลำโพงคอมระดับ Hi-Fi ที่แท้จริงจากยี่ห้อสุดแสนจะดัีงจากประเทศอังกฤษ คือ Bowers&Wilkins รุ่น MM-1 ครับ

   

     คนเล่นงานออดิโอน่าจะคุ้นหูยี่ห้อนี้กันนะครับ ใครไม่คุ้นลองนึกถึงลำโพงที่หน้าตาการออกแบบเหมือนห่อยโข่งครับ นั่นแหละครับที่หน้าตาสวยๆหล่อๆ (รุ่น Nautilus แหละครับ) คนทำเดียวกัน (ใครยังนึกไม่ออก หาใน Google เอาครับ 55+)





     โดยเดิมที B&W (Bowers&Wilkins) จะทำแต่ลำโพงระดับ Hi-end หรือ Audiophile เป็นหลัก แต่พักหลังมานั้นได้ลงมาทำ Consumer ด้วย อย่างรุ่นที่บูมมากในหมู่นักเล่น iProduct ของ Apple ที่เมืองนอกคือ Zepplin และ Zepplin Air และเป็นที่กล่าวขานว่าเป็น Docking Speaker สำหรับ iDevice ที่ดีที่สุดครับ แต่ผมไม่ใช่คนใช้ iDevice งั้นมาทางคอมดีก่า เอ้ยไม่ใช่ อันที่จริงใช้ครับ แต่ส่วนตัวชอบฟังจากคอมมากกว่าเลยเลือกแบบของคอม ทาง B&W ได้เครมด้วยว่า เสียงจาก MM-1 ไม่จำเป็นจะต้องใช้ Subwoofer หรือ No need subwoofer ซะด้วย (O.o) โหวว ลำโพงเล็กนิดเดียวแต่กล้าเครมเลย พื้นที่ในห้องก็น้อยไม่มีที่วางซับเป็นหลักเป็นแหล่งจึงตัดสินใจเอามาเพราะถ้า B&W กล้าเอาชื่อเสียงเดิมมาพูดแบบนี้แสดงว่าต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ

     งั้นมาชมสเปคกันดีกว่านะครับ อ้างอิงจากเอกสารจากทาง B&W นะครับ
    
         สเปคคร่าวๆนะครับ
     Feature : 2Ways Speaker,Fully active,Nautilus™ tube tweeters,Class D Amp,USB
     Driver : 3"-inch Woofer , 1"-inch Tweeter
     Frequency Range : 38Hz-22KHz
     Power Output : 4X18Wrms (Bi-wire)
     DC input : 16V 3.2A
     Power Consumption : 12W
     Standby : <0.2W
     Input : 3.5mm Aux , USB (For streaming+firmware update)
     Output : Main Speaker,Headphone
     Weight : 1.7Kg


     ดูสเปคเสร็จเรามาทดสอบกันดีกว่าครับ โดยเซ็ตระบบเป็นต่อผ่านสาย USB ภาคจ่ายไฟเสียบผ่าน Magnet IRG2000 เพื่อกรองไฟอีกชั้น ส่วนคอมพิวเตอร์ใช้ซิสเต็ม PSU FSP Aurum 600W ลงไฟล์เพลงและวินโดว์บน SSD แยกตัว ใช้ซอฟแวร์เล่นคือ Foobar 2000  ไฟล์เพลงผสมๆเหมือนเดิมครับ ตั้งแต่ Audiophile ยันหูตะกั่วอย่าง MP3 ทุกๆแนว


      เพลงแรกทดสอบด้วยเพลงจีนเป็นเพลงร้อง ชุด Zhao Peng - Greatest Basso Vol.1 ไฟล์ Lossless ลำโพงตัวนี้ให้เสียงคนร้องได้ลึกมาก แถมมีมิติมาก เสียงแหบๆแซกๆที่คอครบเครื่อง เครื่อนดนตรีเริ่มบรรเลง...เสียงดีดมันปิ้งๆโดนใจจริงๆ ซาวน์สเตจทำได้ดีพอสมควรครับ

     ชุดต่อมาที่ทำการทดสอบเป็นเพลงแจ็ส ชุด Audiophile Female Voice vol.1 ไฟล์ Master เสียงเครื่องดีดปลายเสียงเป็นเม็ดเสียงรายละเอียดสุดยอดมาก เสียงนักร้องสาวชัดมีชีวิตชีวา แยกเครื่องดนตรีได้ละเอียด เครื่องเคาะพอดิบพอดีเป็นชิ้นเป็นอัน 

     ชุดต่อมาเป็นเพลงของ Pitbull ออกแนววัยรุ่นบ้าง ฟังแต่เพลงคนแก่ได้ไง วู้! (ปกติก็ฟังแต่เพลงคนแก่นะแหละสมัยวง สาว สาว สาว นู่นแนะ ฮ่าๆ) อย่างที่รู้กันดีเพลงของ Pitbull จะแนวตึบๆเป็นหลัก แน่นอน เอามาเทสอย่างตึบซะ ไฟล์ Lossless เพลง Give me everything,Back in time,Hotel room service ขอบอกว่าเบสตึบจริงๆ ตึบๆเลย อย่างที่ B&W เครมว่า No need subwoofer มันเรื่องจริงทีเดียว เบสนี่กินพวกลำโพงคอมทั่วไปอย่าง SAAG มีที่มีซับด้วยซ้ำ บร็ะเจ้า! เอากะมันดิ (แต่ก็สมราคาค่าตัวมันอะนะ)

    
     ต่อไปทดสอบสุดท้าย เอาดูหนังดีกว่า ทดสอบไป 4 เรื่อง คือดังนี้ Battle Ship,Fast Five,Avatar Extended Edition,Transformer : Dark of the Moon แต่ 4 เรื่องนี่ดูไม่จบนะครับ ฮ่าๆ เอาแค่ทดสอบเสียงถ้าดูจบนี่ตายไปข้างแค่แค่ Avatar ตัว Extended ก็ล่อ 3 ชั่วโมงละ หนังทุกเรื่องดูเป็น Blu-ray Full HD หมดนะครับ ต่อมาก็ทดลองเล่นเกมส์ดู I am alive,DiRT2,DiRT3,Battle Field 3,Crysis 2 น่าผิดหวังถ้ามาเรื่องดูหนัง เพราะจะใช้คำว่า No need subwoofer ไม่ค่อยได้ ย้ำไม่ค่อยนะครับ บางฉากเสียงไม่ถึงอย่างเวลาที่ระเบิดที่แรงๆ ปกติถ้ามีซับห้องต้องสะเทือนครับ แต่ทำไงได้ตัวมันเล็กสะเทือนไม่ไหว ได้เสียงใหญ่แบบลำโพง 6-7 นิ้วก็โอเคละครับ แต่ถ้าเรื่องเสียงกลาง-แหลม ซาวน์สเตจนี่แจ๋วเลยละครับขอบอก

     จบกันไปครับ สำหรับการรีวิว มาทิ้งด้วยวิดิโอทดสอบแบบ Quick Test จำนวน 2 วิดิโอคือทดสอบโดยรวมและทดสอบเบส เสียงอาจจะไม่น่าพอใจจากวิดิโอเพราะผมอัดด้วยไมค์กล้องกากๆของจีนกับไมค์ Internal ที่โคตรๆจะกากเลยละครับ แบบว่าไม่มีปัญญาซื้อ Telefunken นะครับ ฮ่าๆ

(ในวิดิโอผมจะพูดว่ามีปัญหาอยุ่ อันนั้นมันเสียตั้งแต่โหลดมาใต้ท้องเครื่องบิน ซวยมากครับ สงสัยกระแทกตอนโดนโยนกระเป๋า)

     วิดิโอบนและล่างสถานที่อาจจะต่างกันสักหน่อย อย่างงครับ วิดิโอบนถ่ายไว้ตั้งแต่ยังอยู่ ตจว. ครับ วิดิโอล่างมาอยู่ห้องแคบๆหน่อย ที่ กทม. ครับ วิดิโอบนทดสอบทั่วๆไปอันล่าง Quick Bass Test

     อันที่จริงอยากแนะนำไปหาฟังตามตัวแทนเลยดีกว่าครับ ชัวร์กับเสียงมากกว่าได้บินตัวจริงๆเลย ใครอยากได้หรือเล็งไว้อยู่แล้วนับเงินไแด้วยนะครับ ขอราคามันบาดใจสักหน่อย ราคา iStudio ไม่แน่ใจครับเห็นบางคนว่า 28,500 บาท ผมไม่ชัวร์ไปดูเองดีกว่า หรือดูได้ที่ Piyanas ก็ได้ครับ

     สำหรับวันนี้คงไม่มีอะไรแล้วครับ ส่วนแอมป์หลอดคงต้องหาเวลากันอีกที น่าจะหลังสอบนู่นเลย ก็แค่นี้ครับ สวัสดีครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น